คุณวุฒิการสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ
เมื่อโรงเรียนต้องการจ้างครูชาวต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน ก็ย่อมต้องการได้คนที่ดีมีคุณวุฒิและประสบการณ์ มีความเข้าใจในการสอนให้เด็กๆ เข้าใจภาษาอังกฤษ (ที่นักเรียนเองบางทีก็ไม่เข้าใจว่า ตนเองจะต้องเรียนไปทำไม) แล้วโรงเรียนจะทราบได้อย่างไรว่า ครูคนไหนควรจ้าง เพราะการที่ชาวต่างชาติคนหนึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ไม่ได้หมายความว่าชาวต่างชาติคนนั้นจะสามารถสอนภาษาอังกฤษให้เด็กไทยที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษให้เข้าใจได้ (เช่นเดียวกับเราคนไทย ถ้าให้เราไปสอนภาษาไทยให้คนต่างชาติ แม้เราจะพูดไทยได้ แต่ก็คงสอนให้ฝรั่งเขาเข้าใจไม่ได้ง่ายๆเช่นกัน)
วิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้โรงเรียนได้ครูชาวต่างชาติที่ดี สอนเก่งให้เด็กๆ เข้าใจได้คือ การพิจารณาจากคุณวุฒิการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองของชาวต่างชาติ ซึ่งก็มีหลักสูตรแบบนี้เปิดอยู่มากมายทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศ แต่พอไปหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือได้รับเอกสารจากครูต่างชาติหรือบริษัทจัดหาครู คำถามก็อาจเกิดขึ้นในใจของผู้รับใบอนุญาต ครูใหญ่ และครูที่รับผิดชอบงานนี้อีกว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า หลักสูตรไหนคืออะไร แล้วตัวย่ออย่าง CertTESOL, (T)ESOL, CELTA, TEFL, ESL มันคืออะไรกันแน่
เริ่มกันที่ตัวย่อชวนสับสนก่อนนะครับ ELT หรือ English Language Teaching เป็นคำศัพท์ (term) ที่สื่อถึงวิชาชีพที่สอนภาษาอังกฤษทั่วไป
ขณะที่ ESL หรือ English as a Second Language เป็นคำศัพท์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยระบุถึงผู้เรียนภาษาอังกฤษที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่หรือภาษาแรกในชีวิต (เช่น คนไทยที่พูดไทยเป็นภาษาแม่ คนญี่ปุ่นที่พูดญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ คนจีนที่พูดภาษาจีนเป็นภาษาแม่ ฯลฯ)
ส่วน (T)ESOL หรือ (Teaching) English to Speakers of Other Languages นั้นเป็นวลีที่สื่อถึงรูปแบบการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
ในขณะที่ TEFL หรือ Teaching English as a Foreign Language นั้นหมายถึงการสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนที่ปกติแล้วไม่ได้อาศัยหรือทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ
CertTESOL หรือ Certificate of TESOL เป็นวุฒิบัตรที่ออกโดย Trinity College London สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านการสอนภาษาอังกฤษจากประเทศอังกฤษมากว่า 30 ปี และมีศูนย์อบรมอยู่ทั่วโลก
ส่วน CELTA หรือ Certificate of English Language Teaching to Adults เป็นวุฒิบัตรการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นอบรมให้ครูสามารถสอนภาษาอังกฤษให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งออกโดย University of Cambridge
ในอุตสาหกรรมการสอนภาษาอังกฤษ (English teaching industry) ทั่วโลก หลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองมีความแตกต่างกันไปทั้งสถาบันที่จัด ระยะเวลาในการอบรม รูปแบบการเรียน และการได้รับการยอมรับในระดับโลก (worldwide accreditation)
รูปแบบการเรียนหลักสูตรเหล่านี้มีทั้งการเรียนแบบที่ต้องเข้าชั้นเรียนตามปกติและการฝึกสอน หรือการเรียนแบบออนไลน์ (ซึ่งมักไม่มีส่วนการฝึกสอนในบรรยากาศห้องเรียนจริง) โดยมีระยะเวลาแตกต่างกันไปตั้งแต่ 2-3 วันไปจนถึง 4 สัปดาห์
หลักสูตรลักษณะนี้มีอยู่มากมาย ในเมืองไทยก็มีมากกว่า 10 แห่งแล้ว และยังมีในต่างประเทศอีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากโรงเรียนจะไม่รู้และสับสนว่า หลักสูตรเหล่านี้ต่างกันอย่างไร สถาบันที่จัดบางชื่อก็ไม่เป็นที่รู้จัก แม้แต่ชาวต่างชาติเองก็สับสนในการเลือกหลักสูตรที่จะเรียนเพื่อไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษเช่นกัน (ตัวอย่างหนึ่งคือบทความของหนังสือพิมพ์ The Guardian ในอังกฤษตาม link นี้ http://www.theguardian.com/careers/careers-blog/a-guide-to-choosing-the-right-tefl-course)
วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูตัดสินใจเลือกครูต่างชาติได้ถูกต้อง ให้โรงเรียนได้ครูสอนภาษาอังกฤษที่สามารถสอนให้เด็กเข้าใจภาษาอังกฤษได้จริงๆ คือ การพิจารณาถึงการตรวจสอบคุณภาพหรือ moderation ซึ่งเป็นความแตกต่างระหว่างหลักสูตรที่มีคุณภาพและไม่มีคุณภาพ
หากเราเข้าไปชมในเว็บไซต์หรือหาข้อมูลของหลักสูตรเหล่านี้ หลายๆ หลักสูตรระบุว่ามีการประเมินหรือประกันคุณภาพการอบรมในหลักสูตร แต่อาจไม่ได้บอกว่า การประเมินนั้นทำโดยใคร ในขณะที่หลักสูตรที่มีคุณภาพจะระบุว่า การตรวจสอบคุณภาพจะทำโดยสถาบันที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ เช่น CertTESOL ของ Trinity College London หรือ CELTA ของ University of Cambridge
สถาบันเหล่านี้จะส่ง moderator ที่ได้รับมอบหมายโดยตรงจากสถาบันเดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อมาตรวจสอบคุณภาพของศูนย์อบรมที่กระจายอยู่ทั่วโลกในทุกๆครั้งที่ศูนย์จัดอบรมเป็นเวลา 4 สัปดาห์แล้วเสร็จ เพราะสถาบันเหล่านี้ต้องการรักษาคุณภาพของผู้ที่ได้รับวุฒิบัตรของตนให้อยู่ระดับดี สามารถทำการสอนได้อย่างมืออาชีพอยู่เสมอ เพื่อรักษาชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันของตน ด้วยเหตุนี้ สถาบันเหล่านี้จึงอาจปฏิเสธไม่มอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้าอบรมที่ไม่ผ่านการประเมินด้วยเช่นกัน แม้ว่าผู้เข้าอบรมเหล่านั้นได้ชำระค่าเรียนเกือบแสนบาทให้กับศูนย์ฝึกอบรมนั้นๆ และตัวสถาบันเอง เรียกได้ว่า ถึงจะจ่ายครบแต่ก็อาจเรียนไม่จบได้เหมือนกัน
ด้วยคุณภาพที่น่าเชื่อถือในการจัดอบรมหลักสูตรเหล่านี้ ทำให้วุฒิบัตรทั้งสองได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงจาก British Council ที่รับสมัครครูสอนภาษาอังกฤษที่มีคุณวุฒินี้เท่านั้น เช่นเดียวกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศและโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่ยอมรับครูต่างชาติที่มีวุฒิบัตรนี้เข้าทำงานในตำแหน่ง ESL Teacher ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังได้รับการรับรองวิทยฐานะจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) อีกด้วย นอกจากนี้ ในกรณีของผู้ที่ได้รับวุฒิบัตร Trinity CertTESOL ยังสามารถโอนหน่วยกิตในระดับ Level 5 ของ Qualification on Credit Framework (QCF) ในการเรียนในสหราชอาณาจักรได้เช่นกัน
หากผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาเลือกรับครูที่ได้รับวุฒิบัตรเหล่านี้เข้าทำงานในโรงเรียน ย่อมเพิ่มโอกาสที่โรงเรียนจะได้ครูที่อดทน มีทัศนคติที่ดี และสอนภาษาอังกฤษได้จริงๆ เพราะพวกเขารู้ดีว่า การสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยยากเพียงใด และพวกเขารู้ว่าจะต้องสอนอย่างไรให้เด็กสามารถเข้าใจและใช้ภาษาอังกฤษได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ โรงเรียนยังสามารถบอกผู้ปกครองได้อย่างมั่นใจว่าครูต่างชาติที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนนั้นมีคุณภาพที่ดีระดับเดียวกับ British Council และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ในต่างประเทศอย่างแน่นอน